Message of Imam Khamenei on 2019 Hajj pilgrimage, in THAI language

สาส์นฮัจญ์ของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามถึงบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์ อัลฮะรอม สาส์นฮัจญ์ของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

สาส์นฮัจญ์ของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามถึงบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์ อัลฮะรอม 
สาส์นฮัจญ์ของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ส่งสาส์นถึงบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์ อัลฮะรอม โดยถือว่า การประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับชาติมหาอำนาจ จอมอหังการที่มีแกนนำหลักอย่างสหรัฐ นั่นหมายถึง การตัดขาดกับการสังหารผู้ที่ถูกกดขี่และการก่อสงคราม การกล่าวประณามศูนย์กลางของการก่อการร้าย เช่น กลุ่มไอซิส (ดาอิช) และแบล็กวอร์เตอร์ ความหวาดกลัวของประชาชาติอิสลามที่มีต่อรัฐเถื่อนไซออนิสต์ จอมเผด็จการและเหล่าผู้ที่สนับสนุนและให้การช่วยเหลือในการสังหารเด็ก ผู้บริสุทธิ์ และการประณามในการก่อสงครามของสหรัฐและเหล่าพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ และท่านผู้นำยังได้เน้นอีกว่า การทำให้ประเด็นปาเลสไตน์อยู่ในระดับแนวหน้าของประเด็นทางการเมืองของบรรดามุสลิม โดยท่านยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “กลลวงของสหรัฐ ผู้ที่ฉ้อฉลและเหล่าผู้ทรยศที่ได้เข้าร่วมด้วยในข้อตกลงแห่งศตวรรษ นั่นคือ อาชญากรรมที่อยู่เหนือสิทธิของสังคมมนุษย์ และเราก็ขอเรียกร้องให้ทั้งหมดทุกคนเข้าร่วมในการทำให้เลห์กลอุบายนี้ จะต้องพบกับความล้มเหลว และด้วยกับอานุภาพและพลังอำนาจของพระเจ้า เราจะทำให้กลลวงต่างๆเหล่านี้ของฝ่ายชาติมหาอำนาจ ต้องพบกับความปราชัย ด้วยกับความพยายาม อุตสาหะและความศรัทธาของฝ่ายต้านทาน(มุกอวิมัต) 

สาส์นของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งได้อ่านโดยฮุจญะตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน นะวาบ ตัวแทนวะลีย์ ฟะกีฮ์ ในกิจการฮัจญ์และการซิยาเราะฮ์(เยี่ยมเยียน) และอะมีรุลฮัจญ์ของชาวอิหร่าน ณ ทุ่งอารอฟาต ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ พระผู้ทรงกรุณา ปราณียิ่งเสมอ 

มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ พระผู้อภิบาลแห่งสากลจักวาล และการประสาทพรแห่งพระองค์พึงมีแด่ศาสนทูต ผู้ทรงเกียรติ ผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ มุฮัมมัด ศาสนทูตองค์สุดท้ายและบรรดาวงศ์วาน ผู้บริสุทธิ์ของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสิ่งที่คงเหลืออยู่ของพระองค์แห่งโลกทั้งหลาย (อิมามมะฮ์ดี ) อีกทั้งบรรดาสาวกผู้ที่ประเสริฐทั้งหลาย และบรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามพวกเขาอย่างดี จวบจนกระทั่งถึงวันแห่งการตัดสิน 

พิธีฮัจญ์ในทุกปีนั้น เป็นสถานที่นัดพบความเมตตาแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อประชาชาติอิสลาม ด้วยกับคำเชิญจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่กล่าวว่า “และจงป่าวประกาศแก่มวลมนุษย์ในการบำเพ็ญฮัจญ์เถิด” ถือว่า เป็นคำเชื้อเชิญทั่วไปในตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของสำรับแห่งความเมตตา เพื่อที่จะทำให้พวกเขาทั้งหลายนั้นมีความเป็นใจหนึ่งเดียวกัน มีจิตวิญญาณแห่งการแสวงหาพระเจ้า ทั้งมีวิสัยทัศน์และความคิดที่เหมือนกัน อีกทั้งการใช้ประโยชน์จากบะรอกัต(เกียรติ)ของฮัจญ์ ในบทเรียนและคำสั่งสอนต่างๆของฮัจญ์ที่จะมีการเผยแพร่โดยประชาชนกลุ่มหนึ่งไปทั่วทั้งโลกในทุกๆปี 

ฮัจญ์นั้นคือ เคมีปาฏิหาริย์แห่งการรำลึกและความเป็นบ่าวของพระเจ้า ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการอบรมสั่งสอน ความก้าวหน้า และความสูงส่งทางปัจเจกบุคคลและสังคม ที่ควบคู่กับสังคมและความเป็นเอกภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นประชาชาติเดียวกัน พร้อมทั้งกับในการขับเคลื่อนโดยรอบจุดศูนย์กลางอันหนึ่งเดียว ที่มีเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งเป็นกุญแจของความพยายามและการขับเคลื่อนของประชาชาติบนพื้นฐานของหลักเอกภาพ และด้วยกับความเป็นหนึ่งเดียวของบรรดาผู้ที่ประกอบพิธีฮัจญ์ และการไม่มีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขจัดการแบ่งแยกชนชั้น และเป็นโอกาสโดยทั่วไป 

ฮัจญ์นั้นเป็นศูนย์รวมของรากฐานหลักของสังคมอิสลามที่แสดงออกถึงภาพลักษณ์ที่เล็ก ไม่ว่าจะเป็นการครองผ้าอิห์รอม การฏอวาฟ(การเวียนรอบวิหารกะอ์บะห์) การซะแอ การวุกุฟ การขว้างปาเสาหิน ทั้งการเคลื่อนไหว และการหยุดนิ่งในการกระทำอะมั้ลของฮัจญ์ นั่นเป็นการแสดงสัญลักษณ์หนึ่งที่ฉายภาพลักษณ์ของอิสลามที่สังคมนั้นมีความต้องการ 

การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กันในหมู่ประชาชนจากประเทศทั้งหลาย และที่มาจากภูมิภาคที่อยู่ห่างไกล การเผยแพร่กระจายความรู้และประสบการณ์ การรับรู้ข่าวสารจากสถานการณ์และสถานภาพของกันและกัน การขจัดความเข้าใจที่ผิดพลาดและการทำให้หัวใจทั้งหลายนั้นเข้าใกล้ชิดกัน และการเก็บสะสมความสามารถในการเผชิญหน้ากับศัตรูเดียวกัน นั่นคือ ผลลัพท์ที่มีคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของฮัจญ์ที่ไม่อาจสามารถจะได้รับจากการรวมตัวของประชาชนหลายร้อยคน 

หนึ่งในบะรอกัต (เกียรติ) อันยิ่งใหญ่ของฮัจญ์ และเป็นโอกาสให้กับประชาชาติอิสลามที่ถูกกดขี่ทั้งหลาย คือ พิธีการประกาศการตัดขาด นั่นหมายถึง การตัดขาดจากการไร้ความเมตตาทั้งหมด การกดขี่ข่มเหง ความฉ้อฉล ความเลวร้ายและความทุจริตคอร์รัปชั่นของเหล่าทรราชในทุกเวลารวมทั้งการยืนหยัดในการเผชิญหน้ากับเหล่าผู้กดขี่ที่ฉ้อฉลและการเรียกร้องค่าตอบแทนของมหาอำนาจ จอมอหังการในช่วงสมัยต่างๆ 

วันนี้ การประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกตั้งภาคีและพวกผู้ปฏิเสธ มหาอำนาจ จอมอหังการโดยมีสหรัฐเป็นแกนนำหลัก คือ การตัดขาดกับผู้ที่สังหารผู้ที่ถูกกดขี่และการก่อสงคราม 

คือ การประณามศูนย์กลางของการก่อการร้าย เช่น กลุ่มไอซิส (ดาอิช) และแบล็กวอร์เตอร์ของสหรัฐ 

คือ การทำให้ประชาชาติอิสลามมีความหวาดกลัวต่อรัฐเถื่อนไซออนิสต์และเหล่าผู้ที่ให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือในการสังหารเด็ก ผู้บริสุทธิ์ 

คือ การประณามการก่อสงครามของสหรัฐและเหล่าพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ ซึ่งพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด ในขณะที่เกิดความโศกเศร้ากับพวกเขาในทุกๆวัน 

คือ การตัดขาดกับการเหยียดสีผิวและการแบ่งแยกชนชั้น ทั้งตามภูมิศาสตร์ เผ่าพันธ์ และสีผิว หมายถึง 

คือ การตัดขาดความสัมพันธ์จากพฤติกรรมของมหาอำนาจและความชั่วร้ายของอำนาจต่างๆที่ละเมิดและสร้างความเสียหายในการเผชิญกับการกระทำที่มีเกียรติยศและความยุติธรรม ดั่งที่อิสลามได้เชิญชวนทั้งหมดทุกคนในสิ่งนี้ 

นี่คือ บางส่วนของบะรอกัต (เกียรติ) ของฮัจญ์แห่งอิบรอฮีมที่อิสลามอันบริสุทธิ์ได้เชิญชวนพวกเรา และนี่คือ สัญลักษณ์ที่เป็นส่วนสำคัญของอุดมการณ์ของสังคมอิสลาม ที่จะเกิดขึ้นในทุกๆปี โดยบรรดามุสลิมทั้งหลายที่การประกอบพิธีฮัจญ์ คือ การแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหมายและภาษาที่เข้าใจง่าย และได้เชิญชวนทั้งหมดทุกคนให้มีความพยายามในการทำให้สังคมเช่นนี้เกิดขึ้นมาให้ได้ 

บรรดานักอัจฉริยะบุคคลของโลกอิสลาม ซึ่งกลุ่มหนึ่งของพวกเขานั้นมาจากประเทศต่างๆที่ได้เข้าร่วมในพิธีฮัจญ์นี้ด้วย พวกเขานั้นก็มีภาระหน้าที่อันหนักอึ้งและสำคัญอย่างมากที่แบกบนบ่าของพวกเขา 

บทเรียนเหล่านี้ ด้วยกับความพยายาม อุตสาหะและการมีนวัตกรรมใหม่ จะต้องมีการเผยแพร่แก่ประชาชาติทั้งหลายและความคิดเห็นของสาธารณชน อีกทั้ง การแลกเปลี่ยนจิตวิญญาณทางความคิด การมีแรงจูงใจ ประสบการณ์และความรู้ จะเกิดขึ้นด้วยมือของพวกเขาด้วย 

หนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดของโลกอิสลามของวันนี้ คือ ประเด็นปาเลสไตน์ ซึ่งอยู่ในระดับแนวหน้าของประเด็นการเมืองของชาวมุสลิม ในทุกมัสฮับ(สำนักคิด) เชื้อชาติ และภาษา ขณะที่ความฉ้อฉลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นในปาเลสไตน์ เป็นเหตุการณ์ที่น่าเจ็บปวดอย่างยิ่ง ทุกสิ่งของประชาชาตินี้ แผ่นดิน บ้าน เรือกสวนไร่นา ทรัพย์สิน ศักดิ์ศรีและอัตลักษณ์ของพวกเขาต้องถูกยึดเอาไป ประชาชาตินี้จะไม่ยอมรับความล้มเหลว และด้วยกับเตาฟีกแห่งอัลลอฮ์(ความสำเร็จของพระองค์) จะไม่หยุดนิ่งเป็นอันขาด และในวันนี้ พวกเขานั้นมีความกล้าหาญที่มากกว่าวันก่อนๆในภาคสนาม แต่ผลของการกระทำเหล่านี้นั้นก็ต้องการความช่วยเหลือของชาวมุสลิมทั้งหมดทุกคน กลลวงของข้อตกลงแห่งศตวรรษที่เกิดขึ้นจากสหรัฐที่ฉ้อฉลและเหล่าผู้ทรยศ คือ อาชญากรรมที่มีเหนือสิทธิของสังคมมนุษย์ มิใช่เฉพาะกับประชาชาติปาเลสไตน์ เราขอเรียกร้องให้ทั้งหมดทุกคนเข้าร่วมกันเพื่อทำให้เลห์อุบายของศัตรูต้องพบกับความล้มเหลวและด้วยกับอานุภาพและพลังอำนาจของพระเจ้า จะทำให้แผนการลวงหลอกของฝ่ายมหาอำนาจ จอมอหังการต้องพบกับความปราชัยในการเผชิญกับความพยายาม อุตสาหะและความศรัทธาของฝ่ายต้านทาน(มุกอวิมัต) 

พระองค์อัลลอฮ์ พระผู้ทรงเกียรติ ทรงตรัสว่า “พวกเขาปรารถนาที่จะวางแผนการร้าย แต่ว่าพวกปฏิเสธต่างหากที่จะถูกวางแผนการร้าย” 

ดำรัสของพระองค์นั้นสัจจริงและสูงส่งยิ่ง 

ท้ายที่สุดนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนให้บรรดาผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ จงประสบความสำเร็จ ได้รับความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงตอบรับการกระทำอะมั้ลอิบาดะฮ์ของทุกคนด้วยเทอญ 

ซัยยิดอะลี คาเมเนอี 

3 ซุลฮิจญะฮ์ 1440 ตรงกับ 5 สิงหาคม 2019 

 


| شناسه مطلب: 95765




تایلندی



نظرات کاربران